“ศัลยกรรม-มีบุตรยาก” แนวโน้มโต หลังจีนเปิดประเทศ โควิดคลี่คลาย

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ระบุว่า ในกลุ่มของ Health & Wellness นับตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมาศัลยกรรมใบหน้า หลังจากที่ภาครัฐผ่อนคลายเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระบบประกันสังคมที่อยู่กับโรงพยาบาลเอกชน จำนวนกว่า 9.6 แสนคน ทำให้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในตลาดชาวต่างชาติฟื้นตัวขึ้น และคาดการณ์ว่าจากปัจจัยต่าง ๆ จะทำให้ในปี 2566

“ศัลยกรรม-มีบุตรยาก” แนวโน้มโต หลังจีนเปิดประเทศ โควิดคลี่คลาย

รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนโดยภาพรวม จะเติบโตได้ 8-10 %ขณะที่โอกาสทางธุรกิจจากเทรนด์ปี 2566 ได้แก่ ธุรกิจด้านสุขภาพและความงามนั้นยังเป็นดาวเด่นอย่างต่อเนื่องศัลยกรรมปาก โดยปัจจุบันกลุ่มตลาดศัลยกรรมความงามมีทั้งกลุ่มคลินิกความงาม, กลุ่มโรงพยาบาลที่หันมาให้ความสำคัญกับบริการด้านศัลยกรรมเสริมความงามศัลยกรรม อังกฤษ และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการคาดการณ์ว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องศัลยกรรมไทยครองใจต่างชาติข้อมูลจาก สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน พบว่า ที่ผ่านมามูลค่าตลาดของธุรกิจ ศัลยกรรม ไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2560 มูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท ปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2566 มูลค่าตลาดศัลยกรรมความงามไทยยังจะคงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 – 20%

แม้ภาพรวมธุรกิจศัลยกรรมในเมืองไทยที่มีมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาทศัลยกรรมเกาหลี จะได้รับผลกระทบในช่วงการระบาดโควิด-19 แต่หลังจากมีการเปิดประเทศ “ศัลยกรรม” ศัลยกรรมความงามยังเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดชาวต่างชาติ รวมถึงคนในประเทศที่เพิ่มขึ้นเช่นกันข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านความงามอันดับ ที่ 3 ของเอเชีย สามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการด้านความงามและศัลยกรรม เนื่องจากไทยมีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลในยุโรป

ศัลยกรรมความงาม

“นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล” แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ศัลยกรรมจมูก เปิดเผยว่า ภาพรวมศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ของปี 2565 ยังคงมีผู้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้บริการที่เป็นชาวต่างชาติ มีอัตราการเติบโต ศัลยกรรมปาก ขยับจำนวนเพิ่มขึ้นมาประมาณ 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 10% โดยเหตุผลสำคัญ คือ คุณภาพ เทคนิคการผ่าตัด ประสบการณ์และฝีมือความชำนาญของศัลยแพทย์ไทยที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ

ทำให้ชาวต่างชาติเชื่อมั่นและเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเข้ารับการทำศัลยกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ จะเดินทางมาจากประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย อยู่ในระดับกลุ่ม Hi-End เช่น แพทย์, ทนายความ, เจ้าของธุรกิจ, นักแสดงระดับฮอลลีวูด ซึ่งศัลยกรรมยอดนิยมที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจคือ ศัลยกรรมดึงหน้า, ศัลยกรรมตา, ศัลยกรรมจมูก และศัลยกรรมเสริมหน้าอกจีน ตลาดใหญ่ศัลยกรรมด้าน “นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี แผนกศัลยกรรมให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” คาดการณ์ว่า ภาพรวม ศัลยกรรมความงามอุตสาหกรรมความงาม แนวโน้มจะดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศของไทย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้ง่ายขึ้นไม่ต้องกักตัว จุดนี้จะดึงดูดชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาได้สะดวกมากขึ้น

ศัลยกรรมเกาหลี

สำหรับต่างชาติที่นิยมเข้ามาทำศัลยกรรมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนามศัลยกรรมตกแต่ง ขณะที่ จีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ นิยมมาผ่าตัดยืนยันสภาพเพศที่ไทย เนื่องจากกฎหมายที่จีนยังห้าม และเสริมหน้าอก ส่วนคนไทยนิยมทำตาสองชั้น และ เสริมจมูกเป็นหลัก ขณะเดียวกัน บริการที่ลูกค้าฝั่งเอเชียที่นิยมมากที่สุด คือ เสริมจมูก ผ่าตัดตาสองชั้น เสริมหน้าอก และ การเสริมความงามแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่นิยม คือ ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก ทำเลเซอร์

ทั้งนี้ เป้าหมายของไทย ที่จะก้าวสู่ Medical Hub รวมถึงเร่งดึงดูด Medical Tourism “นพ.สุพจน์” มองว่า หากมองในเรื่องของการแพทย์ไทยที่ไม่ใช่แค่ศัลยกรรม ไทยถือว่ามีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหัวใจ ข้อกระดูก กระดูกสันหลัง ดังนั้น หากโปรโมตเป็น Medical Hub โดยรวมศัลยกรรมความงาม ต่างชาติจะเชื่อถือมากขึ้น และจะมาเมืองไทยมากขึ้น”ศัลยกรรมความงาม เติบโตได้อีกมาก ความท้าทายอยู่ที่ว่า หากสามารถโปรโมตให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่าเราเก่งเรื่องศัลยกรรมความงาม จะสร้างความน่าเชื่อถือให้คนต่างชาติให้มากันมากขึ้น” นพ.สุพจน์ กล่าว

มีบุตรยากแนวโน้มโตสำหรับตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ศัลยกรรม ราคา Krungthai COMPASS มองว่า วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง โดยคาดว่า ภาพรวมตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะระดับ 2.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.4 % เพิ่มขึ้นจากปี 2563 เกือบ 3 เท่า อีกทั้ง มองว่าตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของไทยจะมีมูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านบาทในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 1.5 เท่า

สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของ Fertility Tourist ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย ไทย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ทั้งนี้ คาดว่าตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากของไทย ในปี 2570 จะมีมูลค่ากว่า 1.96 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 14.6% ต่อปี (ปี 2562-2570)

แผนกศัลยกรรม

รพ.เอกชนเตรียมรับ นทท.จีนสำหรับ “โรงพยาบาลเอกชน” ศ.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ศัลยกรรมปาก นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิตมองว่า หากประเทศจีนมีการเปิดประเทศให้คนจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ จะเป็นส่วนดีของภาคการท่องเที่ยวไทย แต่ต้องดูรายละเอียดว่ากำหนดเปิดให้กลุ่มใดเข้ามา ซึ่งในอดีตก่อนที่จะมีโควิด-19 ลูกค้าจีนมารับบริการตรวจสุขภาพและรักษาภาวะผู้มีบัตรยากจำนวนมาก หากจีนมีการเปิดประเทศ ก็จะทำให้ภาครพ.เอกชนไทยดีขึ้น

ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 หลังจากจีนเปิดประเทศนั้น ศ.นพ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่กังวลศัลยกรรม อังกฤษ เนื่องจากประเทศไทยผ่านเหตุการณ์หนักๆมามากแล้ว และผู้ติดโควิด-19 ตอนนี้อาการรุนแรงไม่ได้มาก เพียงแต่จะต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือการรับวัคซีน 2 ศัลยกรรมเกาหลีสายพันธุ์ที่จะเข้ามาในประเทศไทยต่อไปโดยภาคเอกชนที่จะนำเข้ามาซื้อขายได้ น่าจะราว ไตรมาส 2 ของปี 2566ศัลยกรรม

ขอบคุณเครดิตจาก

bangkokbiznews

ข่าวแนะนำ

• ดาราดัง 4 ปีเพิ่งรู้ตัว ต้องโดนแฉก่อนผู้จัดการดาราดังขอคืนเงินแล้ว
• ดาราวันนี้ “โก๊ะ กันตนา” เปิดใจ “ต๊ะ กันตนา” เสียชีวิต
• พระเอกดัง แต่งไหม “เด่นคุณ งามเนตร”รัก “แกรนด์ เดอะสตาร์”
• ดาราชาย เดวิด อัศวนนท์เรื่องราวน่ารู้จักของนักแสดงคุณภาพ
• ประวัติ เกี่ยวก้อย ขวัญกวินท์ เกิดลาภผล